Search

“ความทรงจำจากฤทธิ์ไข้”

ย้อนกลับ เมื่อปี...

  • Share this:

“ความทรงจำจากฤทธิ์ไข้”

ย้อนกลับ เมื่อปี 2543 วันนี้ 9 มิถุนายน ช่วงที่ทำวิทยานิพนธ์ นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ช่วงเวลาที่เกินเวลาที่นักกีฬาทุน ป. โท หมดไปแล้ว คือ 3 ปี แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียนจ่ายค่าวิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต หน่วยกิต 3,000 บาท ในเวลานั้น และไม่มีงานทำอะไร ที่พอหารายได้มาจ่ายค่าหน่วยกิต รวมไปถึงค่าบำรุงการศึกษา เทอมละ 12,000 บาท รวมไปถึงปัญหาค่าใช้จ่ายในการทำวิทยานิพนธ์ เราจะหาที่ไหน
ช่วงเวลานั้นชีวิตข้าพเจ้ามืดแปดด้าน ว่าจะหาเงินที่ไหน ที่พักก็ต้องเร่ร่อน เพราะพี่เบริ์ดผู้ให้ที่พักต่างๆ กลับไปทำธุรกิจ ก็ต้องเร่ร่อน ห้องคนนี้ คนนู๊นที โชคดีที่มีรุ่นพี่ในค่ายอาสา กลุ่มรักบี้ยังให้ที่พัก และบางครั้งค่าเหล้าในวงเหล้า ยังเจียดมาให้ผมไปปริ๊นเอกสาร วิทยานิพนธ์ เวลานั้น คือ มรสุมชีวิต เคยเดินขึ้นไปตึกอาคาร 1 บนดาดฟ้า อยากจะไปให้พ้นชีวิตแบบนี้
ในเวลานั้น ในตัวมีเงินอยู่ 1,000 กว่า ตีดรัมมี่ ที่บ้านรักบี้ คิดไม่ออกนั่งรถเมลย์ สาย 66 ลงสายใต้ใหม่ ต่อรถปรับอากาศ ชั้น 2 ลงสวนโมกข์ โดยไม่ได้ตั้งใจคิดจะมาเพียงแต่หาที่ไหนเงียบๆ ให้เวลากับชีวิต นั่งอยู่ในสวนโมกข์ ตั้งตี 5 ที่มาถึง เกือบ 10 โมง ของวันที่ 10 มิถุนายน มีพระองค์หนึ่งเดินเข้ามาถาม มีอะไรหรือโยม เล่าให้อาตมาฟังได้นะ ผมได้เล่าปัญหาชีวิตการดิ้นรนต่อสู้เพื่อตนเอง ชกมวยเรียนหนังสือ ไม่อยากพึ่งพาที่บ้าน เพราะการกระทำของตัว ผมเกเร และความเป็นคนดื้อรั้น ยึดมั่นถือมั่นไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร หรือพี่น้อง
หลวงพี่ ได้ให้ข้อคิด กับการปล่อยวาง การคิดที่ประเด็น เอาประเด็นสำคัญในชีวิต ของเราก่อนแล้วค่อยๆแก้ ทีละเปลาะ แว่บหนึ่ง แล้วเราไม่ไปขอคำปรึกษาจากป๋า ละ (ดร.พีระพันธุ์ พาลุสุข ขณะนั้นดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอธิการบดี และดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคไทยรักไทย)
ผมได้กราบลาหลวงพี่ หลวงให้ผ้าเช็ดตัวให้ผมได้อาบน้ำให้สบายตัว ผมก็นั่งรถเมล์ไปลง บสข. สุราษฎร์เพื่อต่อรถไปกรุงเทพฯ ด้วยรถปรับอากาศชั้น 2 เพราะเงิน 1,000 บาทก็สามารถเดินทางไปตามอัตภาพ
มาถึงกรุงเทพฯ เช้า วันที่ 11 มิถุนายน นั่งรถเมล์ สาย 66 ลงหน้า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ยังเช้าอยู่เลย เข้าไปนอนที่นั่งซุ้มรักบี้ ก็มีพวกพี่ๆ น้องในซุ้มมานั่งรอเรียน ผมล้างหน้า รอพบป๋า ดร. พีระพันธุ์ พาลุสข ในตอนเย็น นั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด พอตอนเย็นก็เข้าไปนั่งห้องทำงานของป๋า โดยแม่บ้านเปิดประตูห้อง เนื่องจากมีผมคนเดียวที่สามารถเข้าห้องทำงานป๋าได้ ผมนั่งรอป๋า ประมาณทุ่มหนึ่ง ป๋าเข้าห้องมา ถาม มีอะไรหรือ เรือง (ชื่อผมตอนนั้น เรืองศักดิ์) ผมก็เล่า ปัญหาต่างๆ ให้ป๋าฟัง และที่สำคัญเป็นประธานสอบวิทยานิพนธ์ ผม และ รศ.ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์ ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เห็นความก้าวหน้าในงานวิทยานิพนธ์ที่ผมเข้ามาปรึกษาเสมอ ให้บัตร ATM ผมไปกดเงินเพื่อไปจ่าย สอบเค้าโครง วิทยานิพน์ 3 หน่วยกิต พร้อมกับค่าบำรุงการศึกษา โดยที่ป๋าไม่ได้ถามอะไรมาก เลย
ผมเหมือนยกภูเขาออกทั้งโลกเลย โดยป๋าให้ผมเข้าหาทุกอาทิตย์ดูความคืบหน้าวิทยานิพนธ์ ผมได้สอบผ่านเคร้าโครง อีก ครึ่งเดือนต่อมา ประมาณปลายเดือน มิถุนายน โดยมีป๋า เป็นประธานกรรมการสอบ
รศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
ผศ.ดร พรชัย เลื่อนฉวี ที่ปรึกษาร่วม
รศ.ดร.มนตรี รูปสุวรรณ ผู้แทนทบวง
อาจารย์ยืนหยัด ใจสมุทร รองผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิ
ป๋าให้เล่าเรื่องผมให้กรรมการฟัง กรรมการได้เอื้ออารีย์ ต่อผมมาก โดยเฉพาะ รศ.ดร.มนตรี รูปสุวรรณ กับท่านอาจารย์ยืนหยัด ใจสมุทร เช่น เงินค่าเป็นกรรมการสอบ มอบให้ไว้เป็นค่าใช้จ่าย ในการทำวิทยานิพนธ์ ผมใช้เวลา อีกเทอม สอบปิด เล่ม ค่าหน่วย กิต 9 หน่วยกิตละ 3,000 บาท กับค่าบำรุงอีก 12,000 บาท โดยป๋าก็ให้ผม เอาไปจ่ายเช่นเดิม และผมก็ได้สอบปิดเล่ม ป.โท นิตศาสตร มหาบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน เบ็ดเสร็จที่ผมจดบันทึก ที่ป๋าให้ผม 120,0000 บาท
และผมก็ได้เป็นอาจารย์ มหาวิทยาลัย ณิวัฒนา จังหวัดสุพรรณบุรี ใน เดือนตุลาคม ปี 2544 ทำงานให้หนี้ ป๋าเดือน ละ 5,000 บาท ตลอดมา แต่ผมก็ใช้หนี้ป๋า จนครบ แบบหยวนๆ บ้าง และในช่วงที่ผมเป็นอาจารย์ ป๋าก็ผลักดันให้ผมเขียนงานทางวิชาการ โดยป๋าบอกผมว่า “ตัวท่านเองไม่มีเวลาเขียนเพราะอยู่กับการเมืองและสอนหนังสือ อยากให้ผมเป็นนักวิชาการที่ดี เพราะผมเป็นคนขยัน รู้คุณคน ฝึกฝนให้ผมเขียนเอกสารประกอบการสอน เขียนหนังสือตำรา และบทความวิขาการ ตลอดเวลา เมื่อผมกลับจากสุพรรณมาหาป๋า ทุกอาทิตย์ และผมก็ได้ติดต่อกับป๋า ตลอดมา จนถึงที่ป๋าได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 เมษยน 2557
ผมเองเคว้งอยู่พักใหญ่กับผู้ใหญ่ที่ดูแลผมตลอดมา ถ้าไม่มีป๋า ดร.พีระพันธุ์ พาลุสข คงไม่มีรองศาสตราจารย์ สิทธิกร ศักดิ์แสง ในวันนี้ (หมายเหตุ ผมเปลี่ยนชื่อ จากเรืองศักดิ์ มาเป็นสิทธิกร ในปี 2548)


Tags:

About author
not provided
ปัจุบัน พ้นจากการโมฆะบุรุษ รองศาสตราจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์
View all posts